ฟ้าร้องฟ้าผ่าสะเทือนเลื่อนลั่น
เป็นที่มาของชื่อ "ฟ้าฮ้อง หรืออินต๊ะเฟือน"
พ.ศ. 2421 กำเนิด
อ้ายฟ้าฮ้อง
กว่า 130 ปีที่ผ่านมา ณ อำเภอลี้จังหวัดลำพูน บ้านปางเป็นหมู่บ้านเล็กๆ
กลางป่าที่โอบล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน
ใช้แสงจันทร์แทนดวงไฟในยามค่ำคืน
ไม่มีถนนตัดผ่านเข้าตัวเมือง
ไม่มีโรงเรียน ไม่มีสถานีอนามัย
หากใครเจ็บไข้ได้ป่วยหนักหนา
สาหัส ก็ต้องแบกขึ้นเกวียนรอนแรม
ไป 2 สัปดาห์กว่าจะถึงตัวเมืองลำพูน
หากไปทันเวลาก็เป็นอันว่า..
" รอดตาย "
ความห่างไกลกันดาน ที่ไม่ว่าจะ
หันหน้าไปองศาใด ก็ไม่เห็นแม้เงา
ของความเจริญ นี่คือวิถีชีวิตบน
คำนิยามที่ว่า
" อยู่ตามยถากรรม "
วันที่ 11มิถุนายน พ.ศ. 2421
เสียงฟ้าฟาดเปรี้ยงปร้างแข่งกับสาย
ฝนสาดกระหน่ำ สะเทือนจนถึงแผ่นดิน
ไม่กี่วินาทีต่อมาเสียงร้องของทารก
น้อยดังขึ้นแทรกเสียงฟ้าที่กำลังคำราม
สำแดงฤทธิ์ฉับพลันโดยไม่เค้า
ครั้นทารกน้อยเงียบเสียงลงฟ้าฝน
ก็พลันสงบกลับมาแจ่มใสในทันที
และนี่คือนิมิตที่เหล่าผู้เฒ่าล้วนเห็น
ต้องตรงกันว่า
" ทารกน้อยผู้นี้..
จะต้องเป็นผู้มีบุญมาเกิด "
" ฟ้าฮ้อง หรือ อินทร์ต๊ะเฟือน "
จึงเป็นชื่อที่ผู้คนในหมู่บ้านเรียกขาน
เด็กชายคนนี้ตั้งแต่วันแรกเกิด
ใครๆ ก็บอกว่า " ฟ้าฮ้อง "ไม่เหมือน
เด็กทั่วไป เขาเป็นคนขรึมพูดน้อย
ไม่เล่นหัวมั่วสุม กับเพื่อนวัยเดียวกัน
จิตใจอ่อนโยนมีเมตตากว่าใคร
7 ปี ก็สร้างวีรกรรม
วันหนึ่งแม่ไปจับปลามาจากลำห้วยได้ปลาตัวใหญ่มาขังไว้ในตุ่มน้ำเพื่อ
เตรียมไว้ทำอาหารกินมื้อเย็นปรากฏ
ว่าปลาที่ขังเอาไว้ปิดฝามิดชิดกลับ
หายไปไร้ร่องรอย แม่จึงเรียกลูก
มาถามไถ่ว่า..
" ใครปล่อยปลาในตุ่ม ? "
ฟ้าฮ้องยอมจำนนรับสารภาพทั้งน้ำตา
ว่าตนเองนำปลาที่อยู่ในตุ่มไปปล่อย
เพราะเขาสงสารปลาตัวนั้นที่จะต้อง
ตายกลายเป็นอาหารของคน
ยิ่งโตขึ้น พ่อแม่ก็ยิ่งประหลาดใจ
เพราะฟ้าฮ้องไม่ยอมกินอาหารที่มี
เนื้อสัตว์ปะปน แถมยังขอร้องให้พ่อ
แม่เลิกเข้าป่าล่าสัตว์อีกด้วย
และสถานที่พักผ่อนสุดโปรดของ
ฟ้าฮ้องก็คือ " วัด" และ "ครูบาขัติ"
คือเจ้าอาวาสที่ฟ้าฮ้องไปมาหาสู่
อยู่เป็นประจำ
พ.ศ. 2439 ชีวิตใหม่
ในพุทธจักร
วันหนึ่ง ฟ้าฮ้อง เข้ามาบอกกับทุกคนในบ้านว่าอยากจะ " ขอบวช "
แม้เหตุการณ์นี้..
จะไม่ได้เกินความคาดหมายของ
ผู้เป็นบิดา และมารดามากนักว่าชีวิต
ของลูกชายคนนี้จะต้องอยู่ใน
" ผ้าเหลือง "
เป็นแน่แท้ แต่ผู้เป็นแม่ก็อดที่จะถาม
ลูกชายไม่ได้ว่า
" ทำไมถึงอยากบวช ? "
ฟ้อฮ้องจึงตอบแม่ว่า..
" การที่พ่อแม่พี่น้องในครอบครัว
เกิดมาก็มีฐานะยากจนอยู่ใน
ท้องถิ่นอันทุรกันดานอย่างนี้
เป็นเพราะในชาติปางก่อนสะสม
กรรมดีมาน้อยนัก ชาตินี้จึงต้อง
ลำบากยากเข็ญ
ฉะนั้นการที่อยากบวชเรียน
ก็มิใช่หลีกหนีความลำบากเพื่อ
ไปหาความสุข แต่ต้องการ
ร่ำเรียนประพฤติปฏิบัติธรรม
และกระทำความดีในทางพระ
เพื่อให้กรรมดีนั้นเป็นอานิสงส์
หรือเนื้อนาบุญแก่บิดามารดา
ที่จะมีผลส่งไปชาติภพต่อไป
เมื่อไปเกิดใหม่จะได้ไม่ต้องลำ
บากอย่างชาตินี้ครับ "
นี้คือความคิดอ่านของหนุ่มน้อย
วัย 18 ปี ที่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าชีวิต
จากนี้จะขอเติบใหญ่ในดินแดน
ของพุทธจักรอันบริสุทธิ์
จากสามเณรเติบโตเป็นพระภิกษุ
จนท้ายที่สุดท่านก็สิ้นอายุขัย
ในผ้าเหลือง
รวมระยะเวลา 42 ปี โดยไม่เคย
ได้รับสมณศักดิ์ใดๆ ไม่เคยมี
พัดยศ หรือตำแหน่งทางคณะสงฆ์
แต่ทว่าพระภิกษุรูปนี้..
กลับเป็นผู้ที่สามารถทำให้วัดวา
อารามทั่วเขตล้านนาพัฒนาขึ้นใหม่
อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งยังคงเป็นวัดที่
มีความสำคัญของภาคเหนือมาจน
ถึงปัจจุบัน เช่น
วัดบ่อนไก่แจ้ และวัดพระธาตุ
ลำปางหลวง จังหวัดลำปาง
วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่
วัดพระธาตุหริภุญชัย
และวัดพระพุทธบาตรตากผ้า
จังหวัดลำพูน
วัดพระศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา
วัดพระธาตุแม่เจดีย์ จังหวัดเชียงราย
วัดพระสิงห์ และวัดสวนดอก
จังหวัดเชียงใหม่
ครูบาศรีวิชัย
เป็นพระภิกษุที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น " ต๋นบุญแห่งล้านนา " หรือ
" นักบุญแห่งล้านนาไทย "
บทความในส่วนที่ผู้เขียนคัดเลือก
มานี้ จะขอนำเสนอในอีกด้านหนึ่งที่
ผู้คนไม่ค่อยได้กล่าวถึงมากนัก
แต่มีความน่าสนใจในแง่มุมของ
การเป็นพระนักสู้ ที่แม้จะเผชิญ
หน้ากับราชภัย มนุษย์ภัยแต่ท่าน
ก็ไม่เคยคิดถอยออกไปจากเส้น
มรรคผลนิพพาน
ในยุคนั้นท่าน คือ พระผู้เป็นศูนย์
รวมศรัทธามหาชนล้านนาอย่าง
ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
และนั่นอาจกลายเป็นของแสลงต่อ
อำนาจ ความหวาดระแวงจากทาง
ใดทางหนึ่งในที่สุด ทำให้..
ตลอดระยะเวลา 30 ปี หรือครึ่งชีวิต
ของพระวัดป่าธรรมดาๆ รูปหนึ่งต้อง
" อธิกรณ์ "
จนถูกควบคุมตัวครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วครั้งที่โดนข้อหาหนักๆ ก็มักจะ
ใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยน
แปลงอำนาจในฟากฝั่งอาณาจักร
ราวกับเรื่องบังเอิญ..
นักปลุกระดมศีลธรรม
4 แผ่นดิน
ครูบาศรีวิชัยเป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยมีใจเด็ดเดี่ยวพูดจริง
ทำจริง เป็นพระที่มีลักษณะเป็นผู้นำ
ทั้งยังมีวาทศิลป์เป็นเลิศ หรือถ้าใน
สมัยปัจจุบันก็เรียกได้ว่าเป็น
" นักปลุกระดมมวลชนคนสำคัญ "
แต่ไม่ใช่ปลุกให้บ้านเมืองระส่ำระสาย
เหมือนเช่นปัจจุบัน แต่ท่าน
" ปลุกระดมให้คนอยู่ในศีลธรรม "
ขนาดชาวป่าชาวเขาหลายเผ่าพันธุ์
ที่เคยนับถือผีไม่มีศาสนาก็ยังเชื่อใน
คำแนะนำสั่งสอนของครูบาศรีวิชัย
หันหน้าเข้าวัด ถือศีลละเว้นความชั่ว
ได้ก็ด้วยบารมีครูบานั่นเอง
พระศรีวิชัยนับเป็น
พระธรรมจาริกองค์แรก
แห่งล้านนาไทย
ที่มุ่งเผยแผ่พระธรรมเข้าไปสู่ชาวเขาเผ่าต่างๆ..
ในช่วงที่บวชได้ 3-5 พรรษาท่านจะ
ออกจาริกเดินธุดงค์หลายแห่งด้วย
ตั้งใจว่าจะใช้ธรรมของพระพุทธองค์
ไปช่วยให้ชาวป่าชาวเขาทั้งหลายมี
ความเป็นอยู่ที่ดีจากเดิม
ความที่ท่านมีอัจฉริยะ "ด้านภาษา"
สามารถอ่านเขียนภาษาพื้นเมือง
อักขระโบราณก็คล่องแคล่ว
ทั้งยังแตกฉานในภาษาบาลี และ
ภาษาสันสกฤตอีกด้วย
การที่ท่านสามารถพูดภาษาชาวเขา
ได้หลายเผ่า จึงทำให้เข้าถึงชาวเขา
ชาวดอยได้ง่าย
เมื่อท่านออกไปสอนธรรมะก็จะพก
ยารักษาโรค สมุนไพรต่างๆ ติดไม้
ติดมือไปช่วยเหลือบรรเทาความเจ็บ
ไข้ได้ป่วยให้ชาวป่าชาวเขาได้อย่างดี
" พอถึงเวลาใกล้เข้าพรรษาบรรดา
ลูกศิษย์ลูกหาต่างก็พากันนำบุตร
หลานมาบวชพระ บวชเณรที่วัด
บ้านปาง
เพื่อให้ครูบาศรีวิชัยท่านอบรมธรรมะ
จนล้นศาลา จนพื้นวัดบ้านปางดูจะ
คับแคบเกินไป ด้วยมีจำนวนพระภิกษุ
สามเณรที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ "
พระเจดีย์ที่วัดบ้านปาง อ.ลี้
จังหวัดลำพูน
พ.ศ. 2447 สร้างวัดใหม่สำเร็จ
ครูบาศรีวิชัยจึงดำริจะสร้างวัดบ้านปางแห่งใหม่บนยอดเขาที่สงบวิเวกเหมาะสม
แก่การทำวิปัสสนา
พอลูกศิษย์ได้ทราบข่าวดีนั้นแล้ว
ทั้ง ชาวป่า ชาวเขาและคนเมืองต่างก็
มุ่งหน้ามาสู่บ้านปางจำนวนนับพันคน
โดยไม่ได้นัดหมาย หรือกะเกณฑ์ใคร
มาแม้แต่คนเดียว ต่างก็ตั้งใจมาช่วยกัน
คนละไม้ละมือ สร้างวัดจนสำเร็จในเวลา
อันรวดเร็ว วัดใหม่แห่งนี้มีชื่อว่า
" วัดศรีดอนชัยทรายมูลบุญเรือน "
วัดบ้านปางแห่งใหม่คือ สัญลักษณ์
ของการผูกรวมหัวใจศรัทธาที่ทุกคน
มีต่อครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านยัง
บวชได้เพียง 8 พรรษา
ในวัย 26 ปีเท่านั้น.!
Click > ติดตามตอนที่ 2
" ถูกตั้งข้อหาเกลี้ยกล่อม ซ่องสุม
คฤหัสถ์ และนักบวช อวดอ้างตน
เป็นผู้วิเศษหลอกลวงผู้คน..
..สั่งขับไล่ครูบาศรีวิชัยให้พ้น
จากเมืองลำพูน..
ท่านประกาศว่า ..
จะไม่ยอมออกจากวัดบ้านปาง
และเมืองลำพูนอันเป็นแผ่นดินเกิด
หากจะต้องตายด้วยอำนาจอัน
ไม่เป็นธรรม ก็ไม่วิตกกังวลใดๆ
ท่านจะยอมตาย..
ในพุทธจักรฝ่ายเดียว "
ติดตามบทความ
Click > บทนำ ครูบาศรีวิชัย อำนาจ หวาดระแวง
แรงศรัทธา และบุญญาบารมี
Click > ตอนที่ 2 ครูบาศรีวิชัย โดนประเคนข้อหา กบฏแผ่นดิน
Click > ตอนที่ 3 ครูบาศรีวิชัย อาตมาขอตายในผ้าเหลือง
Click > ตอนจบ ครูบาศรีวิชัย นักบุญล้านนา ศรัทธานิรันดร์
เรียบเรียงโดย คนธรรมรำพัน
ขอบคุณข้อมูล
และภาพประกอบ
ประวัติครูบาศรีวิชัย
โดยพระครูบุญญาภินันท์
(บุญชู จันทสิริ)
เวปไซต์ วัดบ้านปาง
MGR Online
google.com
มหาเถรผู้ยิ่งใหญ่
>hidden--point.blogspot.com
29 ความคิดเห็น
Click here for ความคิดเห็นประวัติการสร้างบารมีของท่านงดงามยิ่ง แม้ท่านจะละสังขารนานมาแล้วแต่คุณความดีของท่านที่มีให้แก่พระพุทธศาสนาและสาธุชนชาวพุทธ ยังเล่าขานสรรเสริญคุณความดีของท่านไปอีกนานแสนนาน
Replyสาธุ
Replyความดีคู่กับคนดี
Replyประวัติศาสตร์เกิดย้อนรอยเดิมอีกแล้วซินะ ขอคุณพระรัตนตรัยอันบริสุทธิ์จงเจิรญยิ่งๆขึ้นไปเทอญ สาธุครับ
Replyประวัติศาสตร์เกิดย้อนรอยเดิมอีกแล้วซินะ ขอคุณพระรัตนตรัยอันบริสุทธิ์จงเจิรญยิ่งๆขึ้นไปเทอญ สาธุครับ
Replyท่านครูบาศรีวิชัย เป็นต้นบุญต้นแบบอุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา สาธุ
Replyสาธู
Replyสาธุ ครูบานักสู้ ผู้มีหัวใจพระโพธิสัตว์
Replyหยุดรังแกคนดีๆ ไม่ว่าฆราวาสหรือพระภิกษุ คนปรเทศนี้มักเห็นใครเด่นใครดีเกินหน้าไม่ค่อยได้..
Replyชาตินักสู้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา..ขอกราบสักการะท่านครับ
Reply"สิ่งที่คนพาลกลัว...คือการรวมตัวทำความดี".....แม้ถูกกลั่นแกล้งด้วยอำนาจอัน
Replyไม่เป็นธรรมจากคนพาล ก็ไม่วิตกกังวลใดๆ สู้ด้วยบุญ สั่งสมบุญที่บริสุทธิ์อย่างเข้มข้นทับทวี เมื่อเรามีพลังดีมากพอหรือมากกว่าพลังลบ ย่อมส่งผลให้เราสามารถชนะอุปสรรคทั้งหลาย ผ่านพ้นภัยพาลทั้งปวงไปได้ในไม่ช้า
ปลื้มใจแทนคนเจียงใหม่
Replyท่านเป็นพระนักสู้ สู้เพื่อความถูกต้อง
Replyสาธุ
Replyสาธุ
Replyผู้มีบุญญาธิการก็จะมีวิถีชีวิตที่ชอบความสงบ สันโดษแต่ยังเยาว์ อ่านแล้วปลื้ม ภาคภูมิใจค่ะ
Replyท่านครูบาศรีวิชัยเป็นต้นบุญต้นแบบให้พวกเราได้ดำเนินรอยตามความรักและหวงแหนในพระพุทธศาสนาอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
Replyสาธุ
Replyสาธุค่ะ
Replyสาธุค่ะ
Replyสาธุค่ะ
Replyสาธุค่ะ
Replyพระในเมืองโดยเฉพราะมหายานนี่ร้ายนัก และยังมีฝ่ายฆราวาสที่เข้ามาวุ่นวายในคณะสงฆ์ เห็นใครทําดีเกินหน้าเกินตาแล้วเขาทนไม่ได้ อิจฉาริษยาและก็จะยัดเยียดข้อหาให้ต่างๆนาๆ ประวัติศาสตร์
Replyมีให้เห็น และในยุคถิ่นกาขาว ยุคคนพาลครองเมืองเขาก็ยัดเยียดข้อหาต่างๆนาๆให้
#หลวงพ่อธัมมชโย เพราะท่านทําความดีทําคุณประโยขน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคมมากมาย
จนเขาอิจฉาทนไม่ไหว ไล่ล่าไล่จี้ไล่บี้สารพัด พวกนี้ไม่พ้นหรอกมหานรกอเวจี
เป็นพระนักสู้เพื่อพุทธศาสนาโดยเเท้ สาธุ สาธุ สาธุครับ
Replyสาธุค่ะ
Replyกราบท่านด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ
Replyกราบท่านด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ
Replyสิ่งที่พระอรหันต์ไม่กลัวคือมาร
Replyสาธุค่ะ
ReplyConversionConversion EmoticonEmoticon