ครูบาศรีวิชัยขณะถูกควบคุมตัว
อยู่ที่ศาลาบาตร วัดศรีดอนไชย
จังหวัดเชียงใหม่
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2463
..ถ้าอาตมาจะตาย
ก็ขอตายในผ้าเหลือง.!
วันที่กำหนดให้ครูบาศรีวิชัยเข้าเมืองก็มาถึงที่วัดบ้านปาง
มีภิกษุจากวัดต่างๆ มาชุมนุมอยู่
ประมาณ 300 รูป สามเณรอีก
ประมาณ 400 รูป และสานุศิษย์
ที่เป็นคฤหัสถ์อีกพันคน
ที่พร้อมออกเดินทาง
ไปกับครูบาศรีวิชัย
ก่อนที่ครูบาศรีวิชัยจะเคลื่อน
ขบวนนักบุญไปสู่เมืองลำพูนนั้น
โยมแม่ก็มารอท่านที่วัดบ้านปาง
ด้วยน้ำตานองหน้าร่ำไห้ปริ่มว่า
จะขาดใจ ด้วยความเป็นห่วง
เกรงว่าครูบาศรีวิชัยจะได้รับภัย
อันตรายต่างๆ
ครูบาศรีวิชัยได้เพียงแต่ปลอบโยน
โยมแม่ด้วยคำพูดว่า..
" โยมอย่าได้วิตกเลย
อาตมาไม่เป็นอะไรหรอก "
โยมแม่พยายามอ้อนวอนให้ท่าน
สึกจากการเป็นพระเถิดจะได้พ้นภัย
แล้วก็กลับบ้านมาอยู่พร้อมหน้า
พร้อมตากันเหมือนเดิม
แต่ครูบาศรีวิชัยยืนยันว่า..
" ถ้าอาตมาจะตาย
ก็ขอให้ อาตมาตาย
ในผ้าเหลืองเถิด "
ในสมัย พ.ศ. 2462 นั้นการเดินทาง
ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนทุกวันนี้
ขบวนนักบุญจึงต้องรอนแรมไปพัก
ตามวัดในระหว่างทางอยู่ 5 คืน
เมื่อเดินผ่านยังหมู่บ้านใดก็จะมี
ผู้คนนำสิ่งของ เครื่องจตุปัจจัย
ไทยทานอาหารแห้งมาถวาย
ร่วมทำบุญ แล้วฟังธรรมจาก
ครูบาศรีวิชัย
นับวันจำนวนญาติโยม
ก็ทบทวีขึ้นเรื่อยๆ
เพราะแต่ละหมู่บ้านที่ครูบาศรีวิชัย
ใช้เป็นเส้นทางเดินผ่านล้วนแต่มี
ผู้คนที่ศรัทธาท่านทั้งสิ้น
ผ่านไปได้ 3 ราตรี ขบวนนักบุญ
ของครูบาศรีวิชัยก็มีจำนวนกว่า
3,000 คนในขณะที่เหลือระยะทาง
อีกเพียง 2 ก.ม. เท่านั้นก็จะเข้าสู่
ตัวเมืองลำพูน..
ก็มีชาวเมืองลำพูนได้นำขบวน
กลองสะบัดชัย ดนตรี สีซอ
ไปบรรเลงคอยต้อนรับ
พร้อมกับเครื่องไทยทาน
อีกจำนวนมากเพื่อจัดเป็น
" ครัวทาน" เตรียมแห่ครูบาฯ
เข้าสู่เมืองลำพูนในวันรุ่งขึ้น
เจ้าคณะเมือง และข้าราชการ
รู้สึกกดดันกับสถานการณ์อ่อนไหว
เช่นนี้มิใช่น้อย
จึงเตรียมกำลังตำรวจชุดใหญ่
พร้อมรับมือกับขบวนนักบุญราวกับ
ว่าจะออกรบทัพจับศึกก็ไม่ปาน
ขบวนนักบุญพาครูบาศรีวิชัย
มาจนถึงนอกกำแพงวัดพระ
ธาตุหริภุญชัย
ปรากฏว่ามีข้าราชการเมือง
กำลังทหาร ตำรวจพร้อมอาวุธ
ครบมือ..รออยู่.!
ทำให้ขบวนพระภิกษุ สามเณร
ชะงักอยู่กับที่ กำลังตำรวจเข้า
ตรวจค้นตัวพระภิกษุ สามเณรทุกรูป
คฤหัสถ์ทุกคน
ยึดแม้กระทั่งมีดตัดเล็บที่พกติดตัว
ร่ำๆ ว่าจะเกิดการะปะทะกันของสอง
ฝ่ายแต่ครูบาศรีวิชัย ห้ามปรามเอาไว้
ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบและ
จงรอท่านอยู่ที่หน้ากำแพงวัดเถิด
ภาพเหตุการณ์ที่มีพระภิกษุ
และสามเณร สานุศิษย์นับพันคน
นอนค้างแรมอยู่นอกกำแพงวัด
พระธาตุหริภุญชัย นำมาซึ่ง
ความสลดหดหู่ใจจนเกินทน
จนเกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์ไป
ทั่วทุกมุมเมืองว่า..
" เจ้าคณะเมือง และเจ้าหน้าที่
บ้านเมืองทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ
ทำราวกับว่าครูบาศรีวิชัยได้
ทำความผิดร้ายแรงนักหนา
ยิ่งข่าวแพร่สะพัดออกไป
เท่าไหร่
คนที่เคารพศรัทธาก็มุ่งหน้า
มายังวัดพระธาตุหริภุญชัย
มากเท่านั้น.! "
ชาวเมืองลำพูนเองต่างนำอาหาร
มาถวายพระภิกษุสามเณรที่รออยู่
นอกกำแพงวัด ในขณะที่บางส่วน
พยายามจะนำเข้าไปถวายครูบาฯ
ภายในวัดแต่ก็ต้องพบกับ
ความผิดหวัง.!
เนื่องจากมีกำแพงเจ้าหน้าที่ตำรวจ
คุมเข้มอยู่อีกชั้นหนึ่ง และไม่อนุญาต
ให้ใครเข้าไปได้เลย
อย่างมากก็ได้แค่..
ยืนประจันหน้ากับตำรวจ
อยู่หน้าประตูวัดพระธาตุ
หริภุญชัยเท่านั้น
" ส่างสา "
ศิษย์ผู้กล้าเสี่ยงชีวิต
ส่างสา คือชาวไทยใหญ่ที่มาตั้งรกรากในเมืองลำพูนจนเป็นที่รูจัก
รักใคร่ของชาวเมืองลำพูนเพราะ
ความที่มีจิตใจดี ทำบุญสุนทาน
เป็นประจำ เขาก็เป็นผู้หนึ่งซึ่ง
มีศรัทธาต่อครูบาศรีวิชัย
วันนั้นส่างสาประกาศว่า..
ตนจะนำเอาอาหารคาวหวาน
เข้าไปถวายครูบาฯให้ได้
ต่อให้เจ้าหน้าที่จะลั่นไกปืน
ปลิดชีพเขาก็ยอมตายอยู่ตรงนี้.!
ชาวเมืองที่มาชุมนุมได้ยินดังนั้น
ต่างก็ระเบิดเสียงโห่ร้องอึงคนึง
สนับสนุนส่างสาในทันที.!
แล้วส่างสา..
" ก็ทำตามที่พูด เดินบุกเดี่ยว
ฝ่ากำแพงตำรวจเข้าไปในวัด
อย่างไม่สะทกสะท้าน
แล้วคลื่นมหาชนเป็นพันๆ คน
ก็เฮโลตามเข้าไปกันอุตลุด
ตำรวจ..ต้องยอมจำนนต่อคลื่น
มนุษย์ที่ถาโถมเข้ามาโดยดุษฎี
จากนั้น..
เสียงไชโย โห่ร้องก็กึกก้องขึ้นใน
วัดพระธาตุหริภุญชัย ยิ่งเมื่อได้
พบครูบาศรีวิชัยแล้ว ต่างก็โล่งอก
นั่งคุกเข่าก้มลงกราบท่าน
จนหมดหัวใจ
ส่วนข้าวของที่นำมาถวายก็กอง
สูงเป็นภูเขาเลากาด้วยพลังแห่ง
ศรัทธาทั้งชาวป่า ชาวเมืองที่มี
ต่อครูบาศรีวิชัยนั้่นเอง "
ความวิตกกังวลจึงไปตกอยู่ที่ท่าน
เจ้าคณะเมืองลำพูน
และข้าหลวงเมือง
อย่างเห็นได้ชัด เพราะถ้าขืนกักตัว
ครูบาศรีวิชัยไว้ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย
หรือแม้จะเป็นสถานที่อื่นใดก็ตาม
ในเมืองลำพูน
ย่อมก่อปัญหาอันยุ่งยาก
โกลาหลนานับปการ.!
ศาลาบาตรที่วัดศรีดอนไชย
ที่เป็นสถานที่ควบคุมตัว
ครูบาศรีวิชัย
วิธีที่ดีที่สุดก็คือ
ส่งครูบาศรีวิชัยไปยัง
เมืองเชียงใหม่.!
เพื่อให้เจ้าคณะมณฑลเป็นผู้สอบสวนความผิดต่อไป.!
เมื่อเป็นเช่นนั้น ความอลม่าน
จึงเกิดขึ้นที่วัดพระธาตุฯ อีกครั้ง
สานุศิษย์ทุกคนลงความเห็นว่า
จะไม่ยอมให้นำ
ครูบาศรีวิชัยไปเมืองเชียงใหม่
เหตุชุลมุนทำท่าจะลุกลามไป
กันใหญ่ ร่ำๆ จะใช้กำลังกันขึ้น
หากแต่ครูบาศรีวิชัย ได้ขอร้อง
ให้สานุศิษย์ทุกคนตั้งอยู่ใน
ความสงบ ท่านเชื่อว่า..
" ตัวของท่านเองบริสุทธิ์
ฉะนั้นขออย่าได้เป็น
ห่วงท่านเลย.! "
การเจรจาต่อรองของ 2 ฝ่าย
ลงเอยด้วยข้อตกลงที่ว่า ขอให้มี
พระภิกษุจำนวน 4 รูป ติดตาม
ครูบาศรีวิชัยไปยังเมืองเชียงใหม่
และนี่คือครั้งแรกในชีวิต
ของครูบาศรีวิชัยที่เดินทาง
พ้นจากเมืองลำพูนอันเป็น
บ้านเกิดเมืองนอนของท่าน
บ่ายวันเดียวกันนั้นเองครูบาศรีวิชัย
ก็ถึงนครเชียงใหม่ด้วยรถมอร์เตอร์คาร์
ที่ทางราชการลงทุนเช่าจากเจ็กโหงว
เพราะต้องการรวบรัด นำตัวท่านเข้าสู่
เมืองเชียงใหม่โดยเร็วที่สุด
เพื่อจบปัญหาการต่อต้านก่อจราจล
ที่หวุดหวิดจะเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง.!
เจ๊กโหงวเจ้าของรถมอร์เตอร์คาร์
ที่เช่ามารับครูบาศรีวิชัยไปยัง
เมืองเชียงใหม่ 2 ครั้ง
ภายหลังเจ๊กโหงว กลายมาเป็น
สานุศิษย์คนสำคัญของครูบาศรีวิชัย
ชาวเวียงพิงค์
ตื่นเต้นอยากเห็น
ตัวจริงครูบาศรีวิชัย
ปรากฏว่าชาวเมืองเวียงพิงค์ทันทีที่รู้ว่าครูบาศรีวิชัยมาถึงแล้ว
ต่างก็พากันออกมายืนสองฝากถนน
พอมอร์เตอร์คาร์ ขับผ่านหน้าบ้าน
ผู้คนต่างก้มลงกราบเป็นทิวแถว
บ้างก็เดินตามรถด้วยรู้สึกตื่นเต้น
ดีใจที่ได้เห็นตัวจริงของครูบาศรีวิชัย
กลายเป็นว่า..
เมืองเชียงใหม่ในตอนบ่าย
วันนั้นจอแจคึกคักไปด้วยผู้คน
ที่รวมตัวกันแน่นขนัดอย่าง
กับมีงานเทศกาลประจำเมือง
ส่วนครูบาศรีวิชัยนั้นถูกควบคุมตัวไว้
ที่ศาลาบาตร อันเป็นศาลาเก่ารกร้าง
ของวัดศรีดอนไชย โดยทางการจัด
เจ้าหน้าที่ชาย ๒ คน คอยสอดส่อง
ไม่ให้ท่านหลบหนี
ทั้งยังคอยตรวจจับผิดอาการของ
ครูบาศรีวิชัยว่าใช้เวทย์มนต์หรือ
แสดงอภินิหารอย่างไร ผู้คนจึง
นิยมนับถือนัก.!
ปรากฏว่าทั้งผู้คุมทั้ง 2 ก็มิได้
เอาใจใส่ดูแลครูบาศรีวิชัยตาม
สมควรแก่การที่ท่านเป็นพระภิกษุ
ห่มเหลืองเลย..
แต่กลับปล่อยให้ท่านเป็นอยู่ตาม
ยถากรรม ในศาลาบาตรเก่าอับชื้น
ที่ไม่มีแม้เสื่อ หมอน หรือเครื่องใช้
ที่จำเป็นนานกว่า 3 เดือน.!
ชาวบ้านทนดูไม่ไหว.?
จนกระทั่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ข้างวัดทนเห็นสภาพอนาถาที่ปฏิบัติต่อพระ
แบบนี้ไม่ไหวจึงได้ไปหา เสื่อ หมอน
กาน้ำต้ม และกระโถนดินคร่ำคร่า
แต่ยังพอใช้ได้นำไปถวายครูบาศรีวิชัย
และนี้เอง ! คือจุดเริ่มต้น
ที่คนเมืองเชียงใหม่ และชาวป่า
ชาวเขา ต่างก็มุ่งหน้ามาสู่
วัดศรีดอนไชย .!
หลวงอนุสารสุนทร
(สุ่นฮี้ แซ่ฉั่ว)
ครูบาศรีวิชัยโดน
กลั่นแกล้งทั้งที่ไม่มี
ความผิด.!
คหบดีชื่อดังของนครเชียงใหม่2 คน ที่ทนดูครูบาศรีวิชัยได้รับ
การปฏิบัติเยี่ยงนักโทษเช่นนี้
มิได้ก็คือ
หลวงอนุสารสุนทร
และพญาคำ
แห่งบ้านประตูท่าแพ
ทั้งสองท่านนี้สร้างแรงสั่นไหวขึ้น
มาในหัวใจของคนเมืองเชียงใหม่
แม้แต่แขกอินเดีย พม่า กะเหรี่ยง
ทั้งจากตาก ลำพูน แม่ฮ่องสอน
พากันหลั่งไหลไปหาครูบาศรีวิชัย
ที่วัดศรีดอนชัยวันละหลายร้อยคน
จนกระทั่งเจ้าอาวาสวัดศรีดอนไชย
ต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่มากันคลื่น
ประชาชนแต่ก็กันไม่ไหว
ถึงกับขู่ว่าจะจดชื่อ
อุบาสก อุบาสิกาทุกคน
ที่มาหาครูบาศรีวิชัย
" เพื่อนำไปฟ้องกล่าวโทษกับ
เจ้าคณะเมือง
และอุปราชมณฑลพายัพ "
แต่กระนั้น..
ก็ไม่มีใครเกรงกลัวเลย
ยังคงมีผู้คนหลั่งไหลมาเพิ่มขึ้น
ทุกวันจนรองเจ้าคณะเมืองเชียงใหม่
ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีดอนไชย
เอาไม่อยู่
อีกทั้งเริ่มมีการพูดกัน
ปากต่อปากว่า..
" ครูบาศรีวิชัยโดนกลั่นแกล้ง
ทั้งที่ไม่มีความผิด "
เพราะนำท่านมากักขังอยู่ที่
เชียงใหม่เป็นเวลาหลายเดือน
แล้ว แต่การไต่สวนก็ไม่คืบหน้า
เดือดร้อนถึงเจ้าคณะเมือง
เชียงใหม่ที่เกรงว่าเรื่องนี้จะ
ลุกลามไปกันใหญ่
เพราะไม่สามารถรับมือ
กับแรงศรัทธา
ที่มีต่อครูบาศรีวิชัยได้
เจ้าคณะเมืองเชียงใหม่
และเจ้าคณะมณฑลพายัพ
จึงส่งครูบาศรีวิชัยไปพร้อมกับ
8 ข้อกล่าวหา โดยท่านต้องไป
รับการพิพากษาพิจารณาอธิกรณ์
ในกรุงเทพฯ เป็นเวลากว่า 2 เดือน
ครูบาศรีวิชัยรอพิจารณาอธิกรณ์
อยู่ที่วัดเบญจมาบพิตฯ กทม.
Click > ติดตามตอนที่ 4 (ตอนจบ)
" บาตรใบเดียว " ของครูบาศรีวิชัย
เล็กเกินไปที่จะรองรับศรัทธา
ของชาวเมือง..
บรูณะปฏิสังขรณ์วัดกว่า 200 แห่ง
สร้างพระคัมภีร์โบราณกว่า 3พันผูก
สร้างทางขึ้นดอยสุเทพ..
ใช้เวลาในการก่อสร้างเพียง 5 เดือน
โดยไม่ใช้งบประมาณแผ่นดินเลย.!
ถูกสอบสวน
สานุศิษย์นับหมื่นมารอฟังข่าว
จัดเวรยามเฝ้าวัดทั้งวันทั้งคืน.!
ครั้งนี้ท่านเข้ากรับการสอบสวน
อีกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนวาระ
สุดท้ายของชีวิต..
" นักบุญแห่งล้านนา "
ติดตามบทความย้อนหลัง
Click > บทนำ ครูบาศรีวิชัย อำนาจ หวาดระแวง แรงศรัทธา และบุญญาบารมี
Click > ตอนที่ 1ครูบาศรีวิชัย กำเนิดพระนักสู้ ต๋นบุญแห่งล้านนา
Click > ตอนที่ 2 ครูบาศรีวิชัย ประเคนข้อหา กบฏแผ่นดิน
Click > ตอนที่ 3 ครูบาศรีวิชัย อาตมาขอตายในผ้าเหลือง
Click > ตอนจบ ครูบาศรีวิชัย นักบุญล้านนา ศรัทธานิรันดร์
เรียบเรียงโดย คนธรรมรำพัน
ขอบคุณภาพประกอบ
ประวัติครูบาศรีวิชัย
โดยพระครูบุญญาภินันท์
(บุญชู จันทสิริ)
google.com
เวปไซต์ วัดบ้านปาง
MGR online
มหาเถรผู้ยิ่งใหญ่
>hidden--point.blogspot.com
ConversionConversion EmoticonEmoticon