ทำไมรัฐจึงทุ่มเทให้กับวัดธรรมกาย

วิกฤต -โอกาส
____________________


เพราะรัฐทุ่มเทกับวัดพระธรรมกายมากเกินไป ทำให้อดรนทนไม่ไหว จากที่ไม่อยากรู้ เลยต้องไปค้นดูว่าวัดนี้เขามีดีอะไร

โดยเฉพาะกับ

"คดีที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่รัฐทุ่มกำลังคน และงบประมาณมหาศาล อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยใช้ DSI ตำรวจ ทหาร สนธิกำลังกว่า 5,000 นาย ตามจับพระชรา 1 รูป ในวัย 73 ปี แถมเป็นพระที่อาพาธหนักอีกด้วย"

ใครได้ยินเข้าคงตกอกตกใจ ว่าพระรูปนี้สงสัยเป็นอาชญากรสงคราม ไม่ก็เป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายภาคใต้ หรืออันตรายระดับ อุซามะห์ บิน ลาดิน

>>>ก่อนหน้านี้ผมเข้าใจว่า การตามจับชนิดพลิกแผ่นดินหา เป็นเพราะข้อหา "รับของโจร และฟอกเงิน"

แต่เอาเข้าจริง เอ๊ะ ไม่ใช่!!! พราะคดียังไม่ได้ส่งฟ้องศาล เนื่องจากหลักฐานอ่อนเกินไป อัยการจึงให้ DSI มาสอบพระธัมมชโยเพิ่มเติม 

>>>ซึ่งสุดท้าย จากหมายเรียกนำไปสู่หมายจับ ในข้อหา "ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน" คือไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกของ DSI 

เป็นความผิดตามมาตรา 368 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่มีอัตราโทษรุนแรงเป็นบ้า คือ


"จำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

คุณพระคุณเจ้า คดีช่างอุกฉกรรจ์ จนผมสตั้นท์ไปเกือบ 5 นาที



มารู้สึกตัวอีกทีก็พบตัวเองกำลังขำกลิ้งน้ำหูน้ำตาไหล ท้องแข็งเป็นไต อีก 2 นาทีก็จะกลายเป็นซิกซ์แพ็คอยู่แล้วเชียว

พ่อจ๋าแม่จ๋า เจ้าป่าเจ้าเขา นี่ลูกไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่ไหม 

ทุ่มงบประมาณหลายสิบล้าน กำลังตำรวจ ทหาร 5,000 นาย ตามไล่จับพระชรา 1 รูป ด้วยข้อหาที่ถ้าไม่ปัญญาอ่อน ก็ไม่น่าจะคิดได้เลย



เมื่อระดมค้นทั่ววัดแต่ไม่พบตัว ก็คงกลัวจะเสียหน้า จึงเข็นมาตรการณ์บ้า ๆ ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนออกมาเล่นงานวัดรายวัน อย่างที่เคยจาระไนให้ฟังไปแล้ว

เริ่มจาก ม.44 เพราะใช้กฎหมายธรรมดามาสู้แพ้วัด จึงต้องงัดกฎชนิดมัดมือชกมาใช้ 

ความจริงผมเคารพกฎหมายนะ แต่กับ ม.44 นี่เกลียดเข้าไส้ ชนิดรับไม่ได้เลย

ก็เพราะ "มอ" นี้ เจ้าหน้าที่จึงมีความ "ชอบทำ" (ที่ไม่เป็นธรรม)




ทั้งตัดและยึดเสบียงอาหารไม่ให้ส่งเข้าวัด 

ตัดสัญญาณโทรศัพท์-อินเตอร์เน็ต ไม่ให้ติดต่อโลกภายนอกและภายใน จนมีคนตายไปแล้ว 2 คน

ห้ามพระโยมจากที่ไหนมาสนับสนุนวัด เพราะขัดกฎกู

ห้ามไม่ให้วัดแถลงการณ์ข่าวสาร ห้ามแก้ต่างอะไร ล่าสุดจะออกหมายจับพระสนิทวงศ์ ที่คอยให้ข้อมูลฝั่งวัด ไม่ยอมให้รัฐปิดประตูตีแมวอยู่ข้างเดียว 



>>>ยอมรับเถอะครับว่ารัฐก็ใช้วิธีโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อต่าง ๆ ที่รัฐสั่งได้ ปิดหูปิดตาเราไม่ให้เห็นความจริงอีกด้านเหมือนกัน 

พอเรามีโอกาสจะได้ข้อมูลของอีกฝั่ง รัฐก็ปิดกั้นทางนั้นเสีย

รัฐบอกว่าพระสนิทวงศ์บิดเบือนข่าวสาร ใช้ปฏิบัติการทางจิตวิทยา ต้องมีวิจารณญาณกลั่นกรองข่าวสารนั้นด้วย

คือท่านกำลังจะบอกประชาชนว่า พระที่รักษาศีล 227 ข้อ กำลังโกหกเป็นไฟ 

แต่ข้อมูลจากรัฐ ที่ศีล 5 กระพร่องกระแพร่งอิ๋บอ๋าย คือความจริง 

โทษที ไปหลอกลิงเถอะครับ

จากนั้นก็งานถนัดคือโบ้ยหาแพะ ว่าเป็นเพราะคน ๆ เดียว ถ้าให้เข้าไปค้น เรื่องคงจบไปแล้ว



ซึ่งที่จริงมันจบไปตั้งหลายวันแล้ว แต่ท่านมันสมองปลาทองไง เลยลืมไปว่า DSI สนธิกำลังเข้าตรวจค้นวัด 3 วัน 3 คืนเต็ม ๆ ทุกอาคาร ทุกสถานที่ที่สงสัย แต่ไม่พบอะไร DSI จึงเซ็นชื่อรับรองไว้เป็นเอกสารชัดเจน ท่านไปขอลูกน้องมาดูเอาเองเถอะ

ถ้ายังตรวจไม่เสร็จ ยังติดใจ จะรีบเซ็นให้วัดเขาไปทำไมละครับ

สรุปชัด ๆ เลยดีกว่า "หมาป่ามันกำลังหาทางกินลูกแกะ"


พวกไม่ชอบวัดก็อย่าด่าผมนะ (ด่ามามีสวน เตือนไว้ก่อน) เพราะผมกำลังจะบอกว่า ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่รัฐบาลเป็นประชาธิปไตย วัดธรรมกายจะชนะทั้งคดีโลก และคดีธรรม ทุกคดี

แต่เวลานี้ไม่ใช่...เรื่องง่าย ๆ เลยถูกทำให้กลายเป็นวิกฤต


แต่ในวิกฤตมีโอกาส ไปมองด้านดี ๆ ที่ธรรมกายได้บ้างดีกว่าครับ


1. ได้ประชาสัมพันธ์ฟรี ๆ ทำให้วัดเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกโดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณา ตอนนี้โลกอยากรู้ว่าธรรมกายคือใคร ? อยู่ตรงไหน ? ทำอะไร ? ทำไมรัฐบาลไทยที่ทั่วโลกไม่ยอมรับถึงอยากจัดการธรรมกายเหลือเกิน 

สื่อในประเทศ วัดอาจไม่ชนะเพราะรัฐคุมได้ แต่สื่อต่างประเทศนั้นชนะใส ๆ 100% 

The Economist รายงานว่า สิ่งที่รัฐทำเป็นเรื่องการเมือง (แต่ทะลึ่งมาหาเรื่องกับศาสนา)

ผู้สื่อข่าวจาก "อัลจาซีร่าห์" ทวีตว่า "ข่าววัดพระธรรมกายที่เราทำ ถูกรัฐบาลไทยระงับการเผยแพร่"

ในสายตาชาวโลกก็ชัดแล้วว่าใครรังแกใคร


นี่ยังไม่นับการร้องเรียนของศิษย์ธรรมกายในประเทศต่าง ๆ จนลามไปถึง UN 

องค์กรพุทธเครือข่ายระดับนานาชาติ รวมทั้งพระจากประเทศพุทธต่าง ๆ ล้วนออกมาเชียร์ธรรมกาย

ถ้าเป็นว่าว ธรรมกายก็ติดลมบนไปแล้วครับ


2. ได้เผยแพร่ผลงานที่ทุ่มเททำมา 47 ปี พูดตรง ๆ ผมเห็นแล้วอึ้ง ไม่เคยรู้เลยว่าวัดนี้ทำอะไรดี ๆ บนแผ่นดินนี้มาบ้าง เอาแค่โครงการที่เห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ก็มีมากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหวกันแล้ว สิ่งที่ธรรมกายทำ บอกตามตรง อย่าว่าแต่ มส.หรือวัดอื่น ๆ จะทำตามเลย ต่อให้สำนักงานพระพุทธศาสนา หรือแม้แต่รัฐบาลก็ยังไม่แน่ว่าจะมีน้ำยาทำได้ มิน่า คนขี้อิจฉามันถึงดิ้นเป็นปลาถูกทุบหัวขนาดนี้
  



หากไม่มีอคติบังใจ ต้องยอมรับว่า ผลงานของธรรมกายนี่ "ระดับโลก" จริง ๆ (ขี้เกียจเล่า ไปหาอ่านเอาเองเถอะ)

ยิ่งพวกพระหรือวัดที่แอนตี้ธรรมกาย ว่าสอนผิด บิดเบือน เป็นพุทธเทียม พุทธพาณิชย์ มอมเมาประชาชน ขายบุญ ขายสวรรค์ 

โทษทีนะ "เหม็นขี้ฟัน" ครับผม


"โลกเขาดูกันที่ผลงาน ไม่ได้ดูจากลมปากที่พ่นออกมา"

>>>ก็เพราะมัวแต่กอดตำรา คนไทยถึงไม่เป็นพุทธแท้อย่างที่พวกท่านอยากให้เป็นสักที ไปดูสิ ทุกวันนี้ยังเล่นหวย ดูหมอ ทรงเจ้าเข้าผี ดื่มเหล้า เจ้าชู้ เล่นการพนัน นักเรียนตีกัน เด็กผู้หญิงท้องในวัยเรียน โสเภณีเกลื่อนเมือง คอรัปชั่นมีมันทุกวงการ โกหกหลอกลวง เล่นพรรคเล่นพวก มีเส้นมีสาย แค่ยืนต่อคิวยังทำกันไม่ค่อยได้เลย ขับรถก็โคตรจะถูกกฎจราจร ขับขี่ย้อนศร ขับปาดหน้า ถูกจับก็ยัดเงินค่าปรับแทน 

พระพุทธเจ้าท่านไม่ใช่นักทฤษฎี แต่เป็นสารถี เป็นครูฝึกคน ดังนั้นก่อนด่าธรรมกาย ไปทำให้ได้สักครึ่งของเขา อย่ามัวเอาแต่เห่าหอนแบบนี้ ไม่ได้ทำให้คนไทยเป็นคนดีขึ้นมาหรอก



3. ได้รู้ว่าใครคือมิตรแท้ ต้องตอนลำบากนี่แหละจึงจะเห็นว่าใครเป็นใคร ถ้าผมเป็นธรรมกาย จะสแกนตั้งแต่พระผู้ใหญ่ ไปจนถึงพระที่เคยให้ความช่วยเหลือกัน ว่าใครเทคแอคชั่นกันอย่างไร ตอนตัวเองลำบาก ก็มาขอให้ธรรมกายช่วย แต่พอธรรมกายลำบากบ้าง กลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ธุระไม่ใช่ เงียบกันไปเป็นเป่าสาก

ทำให้เห็นชัดเลยว่า ชาวพุทธที่มีกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ในไทย เป็นพุทธที่ไม่มีพลัง เยอะ แต่เหมือนเม็ดทราย ตัวใครตัวมัน เกาะกันไม่ติด เทียบกับพม่าแล้วชิดซ้าย ชนิดตกขอบจักรวาลไปเลย

ถ้ารัฐส่งกำลังปิดล้อมมัสยิดอย่างนี้บ้างจะเป็นอย่างไร เชื่อผมไหมว่าคนมุสลิมจะมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว และอาจรุนแรง มุสลิมในไทยมีแค่ 5 %... น้อย แต่มีพลัง เป็นเหมือนดินเหนียว เกาะกันแน่น เป็นกำแพงกันอันตราย รับรองเผลอ ๆ DSI อาจมีตาย และไม่กล้าทำอะไรเขาด้วยก็แล้วกัน


คิดในแง่ดี ครั้งนี้ธรรมกายจะได้บทเรียน ใครเป็นมิตรเทียมก็แค่คบห่าง ๆ ไว้ ส่วนมิตรแท้ก็ทุ่มเทช่วยเหลือกันให้เต็มที่ ยิ่งเป็นวัดน้องวัดพี่กันเลยยิ่งดี ต่อจากนี้ใครมีภัยจะได้ไปช่วยกัน 


4. ได้ฝึกคนของวัดให้พร้อมรับสถานการณ์ เพราะเป้าหมายของวัดคือการเผยแผ่พุทธศาสนาไปทั่วโลก (มีพระรูปไหนในเมืองไทยเคยคิดใหญ่แบบนี้ไหมครับ) ถ้าแค่ในเมืองไทยยังผ่านด่านไปไม่ได้ ไปเจอคริสต์ อิสลาม ที่มีกำลังคน กำลังทรัพย์มากกว่า จะเผยแผ่สู้กับเขาได้อย่างไร

ผมไม่ค่อยฉลาด คิดได้แค่ประมาณนี้ คนธรรมกายเก่ง ๆ มีเยอะแยะ ไปคิดต่อกันเอง 


>>>>คิดถึงแต่วิกฤตมันบั่นทอนจิตใจ แต่พอหันกลับมาคิดถึงสิ่งที่ตัวได้ ก็กลายเป็นโอกาสอันงดงาม ทำให้มีพลังก้าวเดินต่อไป<<<<<

>>>ธรรมกายก็แค่ตื่นเร็วไป ในขณะที่พระและคนไทยพุทธยังมัวแต่หลับไหลอยู่ในกะลา

ที่สำคัญดันมาอยู่ผิดประเทศ โดยเฉพาะยุคที่ผู้นำมีวิสัยทัศน์ต่ำต้อย ใจแคบ 

แต่คงทนอีกไม่นาน เมื่อพายุพัดผ่าน ท้องฟ้าจะงดงามเสมอ

และวันนั้น จะเป็นวันที่โลกรู้จักธรรมกาย

บอกตามตรง ผมเชียร์พวกคุณแทบตายแล้วเนี่ย !!!


คมความคิด

4 มีนาคม 2560
___________________________________







Previous
Next Post »