พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เปิดใจ! เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ สุโขทัย ลำพูน



คำจริง คือ สัจจวาจา

ทุกถ้อยคำที่คุณจะได้อ่าน ทุกบรรทัดที่จารึกเป็นตัวอักษร

เป็นอมตวาจาจากดวงใจของพุทธบุตร

ผู้เทิดทูนพระศาสนาอย่างสูงสุด และจะธำรงไว้ซึ่งความถูกต้องชอบธรรม

อันเป็นเส้นทางสายเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราชาวพุทธ

เพราะทุกรูปคือวีรบุรุษแห่งกองทัพธรรม!






พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติ
เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง
พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ วัดเจ็ดยอดพระอารามหลวง กล่าวถึงสถานการณ์พระพุทธศาสนาปัจจุบันว่า ปัจจุบันพระศาสนามีภัยรอบด้าน โดยเฉพาะกับผู้บริหารคณะสงฆ์ การฝ่าวิกฤติครั้งนี้ต้องยึดองค์กรสูงสุดคือมหาเถรสมาคม (มส.)เป็นหลัก เพราะการทำงานของท่านยึดหลักกฎหมาย ยึดหลักพระธรรมวินัย



พระสงฆ์ต้องฟังผู้ปกครอง ถ้ามีกลุ่มบุคคลมองในแง่ลบหรือสร้างปัญหา ต้องช่วยกันปกป้องและแก้ข่าว สาธุชนได้ยินข่าวอะไรมาต้องไตร่ตรองให้ดี เพราะคนที่มุ่งร้ายและก่อความไม่สงบนี้ จะหาข้อผิดเล็กๆน้อยๆมาโจมตี อะไรที่เป็นเสี้ยนหนามต้องป้องกัน อย่าให้เขาหาช่องมาเป็นเหตุมาสร้างความวุ่นวายได้ง่ายๆ


เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีมหาเถรสมาคมมีมติเสนอนามสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์  วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นสมเด็จพระสังฆราชว่า ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นที่เคารพรักและศรัทธาของคณะสงฆ์ มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา เคยปฏิบัติงานเป็นเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เคยเป็นเจ้าคณะภาค 7 ท่านมีเมตตาดูแลพระสงฆ์สามเณรเหมือนพ่อดูแลลูก สอนให้ยึดมั่นในพระธรรมวินัย





โดยเฉพาะครั้งที่ดำรงตำแหน่งแม่กองบาลีสนามหลวง ท่านส่งเสริมสนับสนุน พระสงฆ์ สามเณร เรียนบาลีนักธรรม ซึ่งท่านบอกว่าเป็นรากแก้วของพระศาสนา พระศาสนาจะมั่นคงรุ่งเรืองได้เพราะการเรียนนักธรรมบาลีเป็นเบื้องต้น จึงอยากให้รัฐบาลตัดสินตามมติของมหาเถรสมาคม แต่ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้สนองเท่าที่ควร ปัญหาจึงเกิดอย่างที่เห็น ยิ่งเก็บไว้นานเท่าไหร่ปัญหาก็มากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นรัฐควรปฏิบัติตามมติของมหาเถรสมาคม
การรักษาพระพุทธศาสนานั้นต้องรักษากันหลายฝ่าย อะไรที่เป็นเสี้ยนหนามต่อพระพุทธศาสนา  อยากให้ท่านช่วยกันป้องกัน อย่าให้คนอื่นหาช่องมาตีเอาง่ายๆ จะเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย ยุ่งยาก เพราะว่าคนเราจะให้มีความเห็นพร้อมกันคงยาก ฉะนั้นขอให้พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่เข้าใจ และยึดหลักการปฏิบัติธรรมเนียมที่เราสืบทอดกันมาจากครูบาอาจารย์ ก็จะรักษาพระศาสนาไว้ได้”


พระเดชพระคุณพระราชวิมลเมธี
เจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย วัดราชศรัทธาธรรม

 พระเดชพระคุณพระราชวิมลเมธี เจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย วัดราชศรัทธาธรรม กล่าวถึงสถานการณ์พระพุทธศาสนาปัจจุบันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจาก ”ศาสนา” แต่มาจาก “ผู้บวช” รวมถึงคฤหัสถ์บางคนที่เอาความเห็นของตัวเองเป็นหลัก มองผู้อื่นว่าไม่ถูกต้อง ทำให้สังคมกังขาว่าสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก ตั้งอคติไว้ก็อยากให้เป็นแบบที่ตัวเองต้องการ และพยายามแสดงว่าตนเองดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ คนอื่นไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ ชาวพุทธจึงต้องทำความเข้าใจโดยไปถามผู้รู้ ต้องตั้งสติ แล้วค่อยตัดสินว่าอะไรผิดอะไรถูก
ตอนนี้พระพุทธศาสนามีภัยรอบด้าน ถ้าชาวพุทธอ่อนแอ ศาสนาก็อยู่ไม่ได้ ศาสนาอยู่ได้เพราะพุทธบริษัท ตอนนี้เรามีภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา ภิกษุณีเราไม่มี
ฉะนั้นจึงต้องยึดมั่นในหลักคำสอน  ถึงจะผ่านพ้นวิกฤติไปได้


            พระราชวิมลเมธีกล่าวอีกว่า อาตมาเชื่อว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรักประชาชนของพระองค์ทุกคน ทุกพระองค์ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม ฉะนั้นรัฐบาลของพระองค์เมื่อได้ตั้งสัจจะปฏิญาณว่าจะทำเพื่อประชาชน เพื่อพระองค์ ก็ต้องทำตามความเป็นจริง เพราะว่าประชาชนทั้ง 60 กว่าล้านคนเขามองอยู่ว่าสิ่งที่รัฐบาลปฏิบัติต่อพระในครั้งนี้ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง จึงขอฝากถึงรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้สร้างความเป็นธรรม สร้างความถูกต้อง พระที่ได้ไปรวมตัวกับศรัทธาญาติโยมที่พุทธมณฑลนั้น ก็เพื่อต้องการขอความเป็นธรรมจากรัฐบาล



“วิงวอนถึงผู้เป็นใหญ่ทั้งหลาย ขอให้ท่านเป็นต้นแบบที่ดีแก่สังคมไทย อาตมภาพอายุจะ 60 ปีแล้ว ยังเห็นว่าพระพุทธศาสนายังอยู่ในประเทศไทย แต่การกระทำของคนไทย  ที่มีบารมีทั้งหลายกลับตรงกันข้ามกับหลักคำสอน เรารักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รักประเทศไทย รักพระพุทธศาสนา ใครที่มีศาสนาใดก็ให้ยึดมั่นในศาสนานั้น อยู่กับแบบพี่น้อง น่าจะเป็นมงคลกว่า ทางออกคือต้องรัก ให้อภัยกัน ให้เกียรติกัน แสงสว่างก็จะเกิดขึ้นในสังคมไทย”  



พระเดชพระคุณพระราชปัญญาโมลี
เจ้าคณะจังหวัดลำพูน วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร

พระเดชพระคุณพระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร กล่าวถึงสถานการณ์พระพุทธศาสนาปัจจุบันไว้อย่างน่าฟังว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นผู้ก่อปัญหาเป็นเพียงพระ 1 รูปและฆราวาสไม่กี่คน ใครคิดทำร้ายทำลายต้องมีอันเป็นไป แม้คนกาลีบ้านกาลีเมืองจะมีไม่กี่คน แต่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ากระท้อนจะหวานได้ต้องทุบนานๆ บางคนไม่เข้าใจว่ามหาเถรสมาคมคืออะไร

เจ้าประคุณสมเด็จท่านปิดทองหลังพระมานาน พรรษากาลท่านล่วง 90 แล้ว ถือว่าได้สร้างบารมีอันยิ่งใหญ่ พิสูจน์ความบริสุทธิ์และความเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรมที่อยู่ในองค์ท่าน ให้ปรากฏแก่สายตาชาวพุทธทั่วไทยและชาวพุทธทั่วโลก




ส่วนเรื่องที่รัฐก้าวก่ายคณะสงฆ์ ขอบอกว่ายุคนี้เป็นยุคปฏิวัติ ทหารหรือข้าราชการบางท่านไม่รู้ขนบธรรมเนียมของคณะสงฆ์ แต่นายทหารผู้กุมบังเหียนประเทศชาติเป็นชาวพุทธที่มีความรู้ซึ่งธรรมะ ผู้ปกครองประเทศคงรู้ว่าพระสงฆ์ไม่ได้เป็นเจ้าของวัด แต่เป็นผู้ดูแลวัดแทนราชการ เมื่อพระท่านดูแลอย่างดีจนกระทั่งถวายชีวิตเพื่อแผ่นดิน ชวนศรัทธาญาติโยมได้บำรุงศาสนา และยังช่วยด้านศึกษาสงเคราะห์ สาธารณะสงเคราะห์ ช่วยจิปาถะ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุอุบัติภัยทั้งหลาย พระสงฆ์ก็ร่วมกับทหาร ร่วมกับทางราชการช่วยเหลือกันมาตลอด
ฉะนั้นบางทีผู้มีอำนาจไม่เข้าใจอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้ อย่างที่พระไปพุทธมณฑลที่จริงจะระดมทั้งประเทศก็ได้ ถ้าให้อาตมาไปก็จะไป เพราะว่าเจ้าประคุณสมเด็จนั้นท่านสละทั้งชีวิต ใครจะว่าจะกล่าวอะไรท่าน ท่านคงไม่ว่าอะไร เพราะท่านทนมาตั้ง 90 ปีแล้ว เหลือเวลาอีกกี่ปี ทำไมท่านจะทนไม่ได้

...“อยากจะฝากผู้ที่มีความรับผิดชอบของประเทศ ได้โปรดพิจารณาว่า อย่าให้คน 2-3 คน มาทำความยุ่งยากให้แก่ประเทศชาติ และพระพุทธศาสนา เพื่อที่เราทั้งหลายจะได้เกิดความสามัคคี ปรองดอง และอยู่กันอย่างสงบ ภายใต้บารมีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
คณะสงฆ์นั้น ได้ช่วยเหลือราชการ และอยู่ใต้กฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ฉะนั้นขอบิณฑบาตขอเมตตาจากผู้มีอำนาจวาสนาในบ้านเมือง โดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่ได้ดูแลสำนักงานพระพุทธสาสนาแห่งชาติ ได้มีเมตตาอนุเคราะห์ให้วิกฤติตรงนี้ผ่านไปด้วยดี”...

Cr.ข้อมูลบทสัมภาษณ์ Fb Psanitwong Wuttiwangso
Previous
Next Post »

1 ความคิดเห็น:

Click here for ความคิดเห็น
Son
admin
3 มีนาคม 2559 เวลา 01:35 ×

รวมเป็นอมตวาจาจากใจของพุทธบุตร
ผู้เทิดทูนพระศาสนาอย่างสูงสุด และจะธำรงไว้ซึ่งความถูกต้องชอบธรรม
อันเป็นเส้นทางสายเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราชาวพุทธ
เพราะทุกรูปคือวีรบุรุษแห่งกองทัพธรรม!หมู่มารภัยพาลทั้งหลายให้มลายหายสูญ

Congrats bro Son you got PERTAMAX...! hehehehe...
Reply
avatar