... อย่าไปยุ่งกับเขาเลย
ปล่อยเขาไป ...
ถ้อยคำมงคล ที่บ่งบอกถึงขันติเมตตา และอุเบกขาธรรมอย่างสูงสุด
ที่มีให้กับผู้คิดกระทำประทุษร้ายต่อตน
ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
(สมเด็จช่วง)
จากการที่มหาเถรสมาคม ( มส.)
ได้เสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ
เป็นพระสังฆราชองค์ที่ 20
อย่างถูกต้องตามครรลองการปกครองสงฆ์
ที่ได้ถือปฏิบัติสืบมากว่าร้อยปี
และในครั้งนี้ก็มีการรับรองรายงานการประชุม
จากคณะสงฆ์ทั้งฝ่ายมหานิกาย
และธรรมยุติกนิกาย ด้วยมติที่เป็นเอกฉันท์
เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่อาวุโสสูงสุด
โดยสมณศักดิ์ ท่านได้รับการแต่งตั้ง
เป็นสมเด็จพระราชาคณะ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2538
จึงเป็นผู้มีคุณสมบัติถูกต้องตาม
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ปี 2505
ฉบับแก้ไข ปี 2535
ท่านมีวิธีชีวิตเรียบง่าย สงบเย็น
ในวัยเยาว์คราวที่บิดาเสียชีวิต
ท่านจึงบรรพชาเป็นสามเณรครั้งแรก
ด้วยวัยเพียง 7 ปี นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ
การก้าวเข้ามาสัมผัสชีวิตนักบวช..
จากนั้นเมื่ออายุ 14 ปี
ก็ได้กลับมาบวชเรียนอีกครั้ง
เพื่อศึกษาทางธรรมอย่างจริงจัง
ด้วยความมีอัธยาศัยมุ่งมั่น พากเพียร
ในการศึกษา ท่านจึงสอบผ่านการศึกษา
พระบาลีในระดับสูงสุด คือเปรียญธรรม
๙ ประโยค
โดยขณะที่ยังศึกษา ป.ธ. ๗ อยู่นั้น
ท่านได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่
เป็นภิกษุผู้ทรงจำ และสวดพระปาฏิโมกข์
หรือการสวดสาธยายศีลทั้ง 227 ข้อ
เป็นภาษาบาลีล้วนๆ โดยไม่ผิด
แม้แต่ข้อเดียว
โดยทำหน้าที่นี้ ณ วัดเบญจมบิตร
และวัดปากน้ำ เป็นเวลาถึง 16 ปีเต็ม
แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นภิกษุ
ผู้มีความปราดเปรื่องระดับแนวหน้า
อีกสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าท่าน
เป็นภิกษุผู้มีภูมิรู้ภูมิธรรมจนเป็น
ที่ยอมรับในวงการศาสนาระดับสากล
อย่างหาได้ยากอย่างยิ่ง ก็คือการได้รับ
ถวายปริญญากิตติมศักดิ์ จากสถาบัน
ต่างๆ อาทิ
มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง
ในประเทศไทย และในต่างประเทศ เช่น
มหาวิทยาลัยประเทศศรีลังกา
และสังฆสภาอินเดีย ฯลฯ
เท่านั้นแต่เจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านยัง
เป็นพระนักบริหารการคณะสงฆ์ชั้นยอด
ทั้งในฐานะเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ
และผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
ก็ล้วนเป็นที่ประจักษ์ว่าผลงานท่าน
เจ้าประคุณสมเด็จฯนำมาซึ่งความเจริญ
รุ่งเรืองต่อศาสนจักร และอาณาจักรในวงกว้าง
ท่านคือพระมหาเถระผู้มีธรรมครองใจ
มีผ้ากาสาวพัสตร์ครองกายมากว่า
77 พรรษา ชีวิตท่านผ่านร้อนผ่านหนาว
มาแล้ว 91 ปีจึงเพียงพอต่อการพิสูจน์ว่า
เลือดเนื้อชีวติ และดวงใจอันบริสุทธิ์
ท่านน้อมถวายแล้วแด่องค์พระสัมมา
ทุกครั้งเมื่อมีการกล่าวหาหยาบคาย
ปั้นคำเท็จใส่ร้ายป้ายสี
ด้วยมีเจตนาสามานย์เพียงใดก็ตาม
ก็เป็นเพียงการถ่มน้ำลายรดฟ้า
ท้ายที่สุดแล้วอาจมที่ถ่มรดออกไป
ก็จะต้องตกลงมาแปดเปื้อนใบหน้า
ของผู้ถ่มเสียเอง
และแม้กระแสสื่อ..รุมโหมโจมตี
อย่างต่อเนื่องด้วยผรุสวาจา แต่ท่าน
ยังคงรักษาใจนิ่งๆ หนักแน่นประดุจแผ่นดิน
ที่ไม่สะท้านสะเทือน แม้จะถูกราดรด
ด้วยของสะอาดหรือสกปรกก็ตาม
เพราะความดีที่เพียรปฏิบัติมาตลอดชีวิต
หากวันหนึ่งจะมีใคร..มองไม่เห็นคุณค่า
แต่ก็ใช่ว่า..เราต้องหยุดทำ.!!
อันกฎหมายทางโลก
สามารถปกปิดบิดเบือน
ให้คนถูกกลายเป็นคนผิด
อย่างง่ายดาย..ด้วยเล่ห์เพทุบายแสนอยุติธรรม และไร้สามัญสำนึก
หากแต่กฎแห่งกรรมนั้น
เป็นสัจธรรมที่เที่ยงตรง
คือบุคคลผู้ประทุษร้ายในท่าน
ผู้ไม่ประทุษร้ายย่อมถึงความ
พินาศฉิบหาย
ทั้งต่อร่างกาย จิตใจ มีสติปัญญาทราม
เสื่อมจากโภคทรัพย์ และความย่อยยับ
นั้นก็จะตกถึงลูกหลานบริวารว่านเครือ
นี่คือความน่าสะพรึงกลัวของกฎแห่งกรรม
ที่ผู้กระทำสุดจะหลีกหนีพ้น
มาถึงวัดปากน้ำ พร้อมกับยื่นหนังสือ
คัดค้านมติของมหาเถรสมาคม
โดยนำเข่งสังฆทานมาถวาย
ซึ่งในเข่งประกอบด้วยสิ่งของต่างๆ
มากมาย เช่น รองเท้า ดอกไม้จันทน์
สากกะเบือกางเกงใน เงินสด 1,000 บาท
ผักผลไม้ ฯลฯ.."
ตามคำเชิญของทางวัดปากน้ำ
เพื่อแสดงความบริสุทธิ์
พร้อมมีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์
ในการครอบครองรถ !.."
"..สมเด็จช่วง ไม่ขอตอบโต้!
ปมพุทธอิสระแฉซื้อรถให้พยาบาล
“บอกอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ปล่อยเขา”
ด้านคนใกล้ชิด ยัน..
เรื่องนี้ไม่เป็นจริงล้านเปอร์เซ็นต์ !!
ทั้งนี้ความจริงคือ สมเด็จช่วง
ได้บริจาครถให้โรงพยาบาลหลายแห่ง
ในทุกปี ส่วนใหญ่จะเป็นรถตู้พยาบาล
เคลื่อนที่เพื่อใช้เวลาออกหน่วยแพทย์
ตามต่างจังหวัด.."
และทุกครั้งที่บริจาคหรือบริจาค
สร้างอาคารเพื่อสาธารณกุศล
ก็จะมีรายละเอียดเป็นหลักฐาน
ชัดเจนว่าได้ บริจาคเท่าไร !
เมื่อท่านเห็นข่าวที่พาดพิงท่าน
ท่านก็จะพูดเสมอว่า
“อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ปล่อยเขาไป”
และท่านก็ยังคงปฏิบัติกิจของสงฆ์
โดยการลงสวดมนต์ ฉันเพล และเทศน์
ให้ญาติโยมฟัง แม้จะมีตำแหน่งเป็นถึง
ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
และมีอายุมากถึง 91 ปีแล้วก็ตาม
“ ฟ้าและแผ่นดินไกลกัน
ฝั่งของมหาสมุทรก็ไกลกัน
แต่ธรรมบัณฑิตและคนพาลนั้น
ไกลกันยิ่งกว่านั้น "
พุทธพจน์บทหนึ่งที่กล่าวไว้ใน
มหาสุตโสมชาดก พอสรุปใจความได้ว่า
พึงอยู่ร่วมคบค้าสมาคม พึงเชื่อฟัง
และประพฤติตามบัณฑิต
ผู้สงบมีคุณธรรมเป็นปรกติ
เพราะจะทำให้ชีวิตเราเจริญรุ่งเรือง
ไม่เสื่อม ไม่ตกต่ำ..
เมื่อเราจะคบกับใครจะเคารพ
เลื่อมใสหรือจะเชื่อใจคำพูด
ของใคร เราควรพิจารณาให้
ถ่องแท้ว่าบุคคลนั้น..
เป็นสัตบุรุษ หรืออสัตตบุรุษ
เป็นคนพาล หรือบัณฑิต
หากเป็นคนพาลผู้ไม่มีศีลไม่มีธรรม
เราก็อย่าไปเชื่อถือ เพราะจะทำให้เรา
เสียโอกาสในการสร้างบุญ ทำความดี
อย่าให้เวลาอันมีค่าของเรา สูญเสีย
ไปกับการสมาคมกับผู้ที่ไม่ประพฤติ
ตนอยู่ธรรมเลย
เรียบเรียงโดย คนธรรมรำพึง
417 ความคิดเห็น
Click here for ความคิดเห็น «เก่าที่สุด ‹เก่ากว่า 401 – 417 จาก 417 ใหม่กว่า› ใหม่ที่สุด»สาธุๆ
Replyสาธุๆ
Replyใช่เลยครับ
Replyอนุโมทนาในกุศลบารมีที่หลวงพ่อได้สั่งสมมา
Replyขออุปัทวะทั้งหลาย จงแพ้ภัยตัวเองและสิ้นไปในที่สุด
นรกจะไม่มีที่ยืนสำหรับคนชั่วช้าต่ำทราม
อนุโมทนาในกุศลบารมีที่หลวงพ่อได้สั่งสมมา
Replyขออุปัทวะทั้งหลาย จงแพ้ภัยตัวเองและสิ้นไปในที่สุด
นรกจะไม่มีที่ยืนสำหรับคนชั่วช้าต่ำทราม
ขอกราบถวายกำลังใจแด่สมเด็จ
Replyอนุโมทนาในกุศลบารมีที่หลวงพ่อได้สั่งสมมา
Replyขออุปัทวะทั้งหลาย จงแพ้ภัยตัวเองและสิ้นไปในที่สุด
นรกจะไม่มีที่ยืนสำหรับคนชั่วช้าต่ำทราม
กราบๆๆแทบเท้าพระคุณท่านสมเด็จ
Reply請大家團結一致支持佛教。
Replyกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ ในความดีและความเมตตาของท่านที่มีต่อทุกคนเจ้าค่ะ
Replyกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ ในความดีและความเมตตาของท่านที่มีต่อทุกคนเจ้าค่ะ
Replyขอนอบน้อมกราบแทบเท้าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
Replyขอนอบน้อมกราบแทบเท้าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
Replyท่านทำความดีมามาก ตลอดชีวิตเพศสมณะของท่านยังไม่ด่างพร้อยอะไรเลย คนจิตใจแบบไหนกันถึงทำกับท่านได้
Replyน้อมกราบถวายกำลังใจเจ้าค่ะ
Replyกราบนอ้มถวายกำลังใจต่อเจ้าคุณสมเด็จชว่งค่ะ
Replyโคตรลั่น 55555555555555555555555555555555555555555 กาลเวลาพิสูจน์คนจริงๆ
ReplyConversionConversion EmoticonEmoticon